วันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2553

อันดาลุส (สเปนมุสลิม) : สวรรค์ที่สูญหาย

อันดาลุส (สเปนมุสลิม) : สวรรค์ที่สูญหาย
ในตอนปลายคริศตศตวรรษที่ 8 สเปนเป็นแหล่งความเจริญและวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดของยุโรปนานนับเป็นศตวรรษ การค้าขายกับโลกภายนอกของสเปนไม่มีใครสามารถมาแข่งขันได้ และในช่วงเวลาแห่งการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจนี้เอง พวกยิวที่ได้ถูกชาวคริสเตียนขับไล่ทำลายออกไปจากคาบสมุทรแห่งนี้ในศตวรรษที่ 7 ได้เติบโตและมีความเจริญมั่งคั่งขึ้นอีกครั้งหนึ่ง


อันดาลุส (เป็นภาษาอาหรับที่ถูกใช้เรียกสเปน) เจริญรุ่งเรืองไม่เพียงแต่เฉพาะในด้านเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นรู้จักกันดีในฐานะเป็นศูนย์กลางทางด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ สถาปัตยกรรม บทกวีและศิลปอันยิ่งใหญ่อีกด้วย ในขณะที่สเปนกำลังรุ่งเรืองอยู่นั้น ยุโรปส่วนใหญ่กำลังอยู่ใน “ยุคมืด” แต่เป็นเพราะอัล-อันดาลุสนี้เองที่ความรู้ของมุสลิมได้ผ่านเข้าไปยังยุโรปและทำให้ยุโรปเกิดยุค “ฟื้นฟูศิลปวิทยาการ” (เรอเนซองส์) ขึ้นมา

ลักษณะที่สำคัญอย่างหนึ่งของอิสลามในขณะที่รุ่งเรืองอยู่ในสเปนเป็นเวลาหลายศตวรรษนั้นก็คือความใจกว้างที่มีต่อชาวยิวและชาวคริสเตียนของมุสลิม ชาวยิวและชาวคริสเตียนทั้งหมดที่ยอมรับมุสลิมเป็นผู้ปกครองประเทศจะได้รับอนุญาตให้ถือครองทรัพย์สินของตนและมีเสรีภาพในความเชื่อและการปฏิบัติศาสนาของตน

มุสลิมเข้าไปในสเปนครั้งแรกพร้อมด้วยกองทหารจำนวน 30,000 คนใน ค.ศ.711 ภายใต้การบังคับบัญชาของตารีค บิน ซิยาด ทหารมุสลิมได้ยึดอำนาจจากพวกวิซิโกธที่เข้ามายึดอำนาจมาจากพวกโรมัน ใน ค.ศ.715 กองทัพมุสลิมได้ข้ามภูเขาพีเรนีสและได้เข้าควบคุมพื้นที่ที่มีคนอยู่อาศัยถึง 4 ล้านคน ภายในเวลาเพียง 7 ปี ดินแดนสี่ในห้าส่วนของคาบสมุทรสเปนก็ถูกพิชิตและการปกครองแบบเคาะลีฟะฮก็ได้ถูกสถาปนาขึ้น ดังนั้น ใน ค.ศ.733 กองทัพของฝ่ายคริสเตียนจึงได้สกัดกั้นมุสลิมมิให้ขยายตัวลึกเข้าไปในยุโรปมากกว่านั้นอีก

ในตอนต้นศตวรรษที่ 9 ชาวคริสเตียนจำนวนมากมายได้หันมาเข้ารับอิสลาม ขณะเดียวกันในอีกด้านหนึ่ง มุสลิมก็พิชิตแคว้นซินด์ซึ่งปัจจุบันคือประเทศปากีสถานได้ นั่นหมายความว่าภายในระยะเวลาไม่ถึง 150 ปี อิสลามซึ่งเริ่มต้นจากขบวนการเล็กๆของชาวทะเลทรายเพียงหยิบมือหนึ่งได้ขยายตัวออกไปกลายเป็นมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของโลก

ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นก็เพราะว่ามุสลิมในเวลานั้นเป็นคนที่ปฏิบัติตามคำสอนของศาสนา เจตนาเบื้องแรกของพวกเขาในขณะที่ทำการญิฮาดนั้นก็คือการเผยแผ่อิสลาม มิใช่การแสวงหาทรัพย์สินและทรัพย์เชลย ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหนก็ตาม พวกเขาจะสร้างระบบสังคมที่วางพื้นฐานอยู่บนความยุติธรรมขึ้นมาแทนระบบทรราชย์และระบบกษัตริย์ที่เป็นอยู่ในเวลานั้น

ผู้คนในดินแดนที่มุสลิมเข้าไปปกครองนั้นมีเสรีภาพที่จะเลือกนับถืออิสลามหรือปฏิบัติตามศาสนาเดิมของตนต่อไป หากเลือกที่จะนับถือศาสนาเดิม คนเหล่านั้นก็จะต้องจ่ายภาษี “ญิซยะฮ์” ที่ทำให้พวกเขาได้รับการยกเว้นจากการเป็นทหาร แต่ผู้คนจำนวนมากได้หันมาเข้ารับอิสลามเพราะได้เห็นลักษณะและความประพฤติของมุสลิมที่เข้ามาปกครองพวกตน


นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 เป็นต้นมาเมืองหลวงของรัฐเคาะลีฟะฮ์อันดาลุสก็คือเมืองคอร์โดบาซึ่งมีประชากร 600,000 คน มีอาคารบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างประมาณ 200,000 หลัง มัสญิด 1,500 แห่งและห้องอาบน้ำสาธารณะประมาณ 1,000 แห่ง ในห้องสมุดของเมืองมีเอกสารและบันทึกต่างๆกว่าครึ่งล้านชุด ศูนย์กลางของเมืองมีระบบลำคลองที่เชื่อมกันและในตอนกลางคืนแม้แต่ถนนที่แย่ที่สุดก็มีแสงสว่าง

กล่าวโดยสั้นๆ เมืองนี้มีสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างที่ไม่สามารถพบได้ในเมืองยุโรปอื่นๆ แม้แต่กษัตริย์คริสเตียนหลายคนก็ยังส่งลูกหลานของตนมาศึกษาในอันดาลุสทั้งนี้เนื่องจากที่นี่มีมหาวิทยาลัยที่ดีหลายแห่ง และภาษาอาหรับเป็นภาษาสำคัญของโลก

แต่ปัจจุบัน สภาพการณ์กลับตรงกันข้าม หลายเมืองในประเทศมุสลิมกลายเป็นแหล่งเสื่อมโทรมหรือที่เรียกว่าสลัมและไม่มีสาธารณูปโภคพื้นฐาน ผู้คนได้รับความเดือดร้อนจากความยากจน สงคราม โรคภัยไข้เจ็บและด้อยการศึกษา

รัฐมุสลิมที่ปกครองโดยระบบเคาะลีฟะฮ์ในสเปนล่มสลายลงใน ค.ศ.1492 เมื่อเมืองแกรนาดาถูกพิชิตโดยกษัตริย์เฟอร์ดินานด์และราชินีอิซาเบลลา กษัตริย์และราชินีคู่นี้คือผู้ปกครองที่ให้เรือ 3 ลำแก่โคลัมบัสไปเริ่มต้นการล่าอาณานิคม การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และการค้าทาสในอเมริกา

มุสลิมและชาวยิวที่หลงเหลืออยู่ในตอนนั้นมีทางเลือกสามทาง นั่นคือ
(1) หากจะนับถือศาสนาของตนต่อไปก็ต้องออกไปจากประเทศ
(2) หันมารับนับถือศาสนาคริสต์ และ
(3) ถูกฆ่า

เหตุผลดังกล่าวมาทำให้เป็นเรื่องง่ายที่จะวิเคราะห์ว่าทำไมหลังศตวรรษที่ 8 มุสลิมจึงได้เสียยุโรปตะวันตกให้แก่คริสเตียน นั่นก็เพราะว่าพวกเขาไม่ปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาอย่างที่พวกเขาจะต้องปฏิบัติ ดังนั้น จากความมั่งคั่งรุ่งเรืองจึงได้กลายเป็นความเสื่อมสลาย อันดาลุสได้แตกออกเป็นรัฐเล็กๆที่ต่อสู้กันเอง บางครั้งถึงขนาดที่ว่าพวกเขาได้เอาทหารแคธอลิกมาเป็นผู้ช่วยในการต่อสู้กับพวกเขาด้วยกันเอง

จากประสบการณ์ของอันดาลุส เราได้รับบทเรียนหลายอย่าง มุสลิมจะต้องตระหนักอยู่เสมอว่าอัลลอฮฺผู้ทรงอานุภาพจะทรงช่วยเราถ้าหากเราช่วยพระองค์ในหนทางของพระองค์ นั่นหมายความว่าถ้ามุสลิมปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาแล้ว ความสำเร็จก็ได้ถูกวางไว้ไม่เพียงแต่เฉพาะในโลกหน้าเท่านั้น แต่ยังในโลกนี้อีกด้วย

มุสลิมได้สูญเสียอันดาลุส, บอลข่าน, อินเดียและอื่นๆอีกมากมายเพราะความผิดพลาดของพวกเขาเอง มุสลิมไม่เคยลุกขึ้นร่วมกันต่อสู้เมื่อลัทธิล่าอาณานิคมทำลายเอกภาพมุสลิมและนำเอาการปกครองที่ขัดต่อหลักศาสนาเข้ามาแบ่งแยกและปกครองแผ่นดินมุสลิม

บทความโดย อะลีฟุดดีน , บรรจง บินกาซัน แปล
คัดลอกจาก: Thaimuslimshop.com

1 ความคิดเห็น:

  1. คริสต์-มุสลิม เปลี่ยนมานับถือพุทธศาสนา
    http://tobebuddhist.blogspot.com

    ตอบลบ