วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สุลต่านอับดุลฮามิดที่ 2แห่งอาณาจักรอุษมานียะห์


มารู้จักชีวประวัติของสุลต่านอับดุลฮามิดที่สอง เพราะท่านคนหนึ่งที่มีความเที่ยงตรง และเป็นกลางในการปกครองประเทศมุสลิมในฐานะเคาะลีฟะฮ อุสมานียะห์ และท่านมีความจริงจังจะรวมพลังมุสลิมกลับคืนมา ในสถานภาพที่เหตุการณ์ของอาณาจักรอุสมาน แทบจะไม่ฟื้น
สุลต่านอับดุลฮามิด
เกิดในปี 1842 ค.ศ. บิดาของท่านคือ อับดุลมายิด อยู่ในกลุ่มผู้วางแผนกฎหมาย ให้เข้ากับหลักสูตรของยุโรป และท่านอยู่ในวงการมาซูนียะห์ พร้อมกับรอเซต บาซาร์ หลังจากสุลต่านอับดุงมายิดสิ้นพระชนม์ น้องของเขาถูกแต่งตั้งเป็นสุลต่านและได้เดินตามรอยของสุลต่านอับดุลมายิดเป็นเส้นทางของพี่
สุลต่านอับดุลฮามิดได้ถูกแต่งตั้งในปี 1876 ซึ่งสถานการณ์ในประเทศตอนนั้นแย่มากเลย และมีกลุ่มหนึ่งเคลื่อนไหวเป็นลูกสมุนของซูมานียะห์ และได้ถอดถอน สุลต่านอับดุลอาซิดและประหารชีวิต และได้แต่งตั้งมูร็อด ซึ่งเป็นเครื่องมือของซูมานียะห์ การครองตำแหน่งของมูร็อดเพียงไม่กี่เดือน เพราะเป็นบ้า ท่านปกครองได้เพียง 93 วันเท่านั้น และท่านไม่ได้ออกหน้าต่อประชาชนเพียงวันเดียวเท่านั้น และได้แต่งตั้งอับดุลอามิดเป็นสุลต่าน ส่วนสถานการณ์นอกประเทศอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ เกิดการปฏิวัติและต่อต้านเกือบทุกที และยุโรปอยู่เบื้องหลังการก่อกวนและสร้างกระแสแทรกแซง กิจการในประเทศมุสลิมโดยใช้ชื่อต่าง ๆ โดยไม่มีเงื่อนไข
ทางด้านรัสเซีย พยายามเต็มที่จะครอบครองประเทศมุสลิม ทางด้านยิว และองค์กรนานาชาติ ได้ขยายการเคลื่อนไหวและวางแผน เพื่อเป้าหมายที่สำคัญ คือยึดดินแดนปาเลสไตน์และได้ร่วมมือกับหลายฝ่าย อังกฤษ ฝรั่งเศส และอัลมาเนีย เยอรมัน และยุโรป เพื่อโค่นล่ม รัฐบาลอิสลาม
และในที่สุด อาณาจักร ออตโตมาน เคาะลีฟะฮ อิสลามียะห์ ถูกเปลี่ยนเป็นชาตินิยม และแบ่งแยกดินแดนเป็นส่วน ๆ

บุคลิกภาพสุลต่านอับดุลอามิด
บิดาของท่านได้ทิ้งมารดา ราชวังอันสวยงาม แต่อับดุลฮามิดไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่นอกวัง และเติบโตที่นั่น และในราชวังอันสวยงามท่านสุลต่านอับดุลฮามิดมิได้ จัดทำห้องละหมาด และเป็นข่าวที่แคร่คนหนึ่ง ท่านสุลต่านได้ใช้ชีวิตในพระราชวัง 33 ปี ท่านอยู่ในความกลัว ตลอดกับเหตุการณ์ในประเทศและนอกประเทศ โดยเฉพาะเหตุการณ์ฟิตบะฮ ยังเพิ่มความรุนแรง


เหตุการณ์ในบ้านเมืองและนอกเมือง

หลังจากอับดุลฮามิด เป็นสุลต่านการปกครองของสุลต่าน เสมือนปกครองเกาะบางพื้นที่ได้รวมตัวกันและบางพื้นที่ การปกครองของสุลต่าน อ่อนแอมาก มีแค่ชื่อเท่านั้นที่ว่าเป็นส่วนหนึ่งของเคาะลีฟะฮ แต่จริงแล้วไม่มีอะไรพื้นทีที่แยแมน ไม่ได้อยู่ภายใต้คำสั่งของสุลต่านและพื้นที่อิยิปต์ ไซปรัส มีแต่ชื่อเท่านั้นเอง ถึงแม้ว่าทุกปี ทางฝ่ายเจ้าเมืองจะจ่ายเงินมายังสุลต่านที่ตูนีเซีย ฝรั่งเศส ได้ยึกครองในปี 1881 ชาวบอสเนียและแธรซิก แพ้กับและถูกลอบให้กับทหารและอาหรับได้ประกาศสงครามเป็นกลุ่มท่านสุลต่านอับดุลฮามิดได้ขึ้นครองราชย์หลังจากเกิดเหตุการณ์หลั่งเลือดหลังจากได้ถอดถอนสุลต่านสองท่าน 93 วัน

ทางด้านรัสเซียเตรียมพร้อมที่จะจัดการกับคนไข้ซึ่งไม่มีความสามารถที่จะต้านได้จากรัสเซีย ในที่สุดรัสเซียได้ยึดและการปกครองและแรงต้านจากครูเสดกำลังลุกฮืออังกฤษได้อิยิปต์และเยอรมัน และประเทศได้ติดหนี้เป็นมหาศาล ไม่มีเส้นทางอื่นอีกแล้ว เปรียบเสมืนพื้นที่ของเคาะลีฟะฮแคบมาก ส่วนศัตรูภายนอกได้มีการประหารตลอดเพื่อยกเลิกอาณาจักรอุสมานียะห์และไม่สนใจกับอาณาจักร ซึ่งผู้นำเป็นไข้ไม่สบายท่านสุลต่านอับดุลฮามิดไม่รู้จะพึ่งใคร จะเข้าร่วมกับอังกฤษกับรัสเซีย เยอรมัน ฝรั่งเศส
ในปีสุลต่านได้ขึ้นครองราชอังกฤษได้ปกครองอินเดียและส่วนหนึ่งของจีนและรัสเซียได้ยึดปกครองตุรกีสถาน ตาจีสถาน และที่อเมริกาได้ตลอดออกมาใหม่และอาครณ์ยิวและในช่วงนั้นรัสเซียกับอังกฤษได้เสนอราชวงศ์อุสมานียะห์แย่งพื้นที่ปกครองก่อกวนภายในประเทศ
ตะวันตกไม่เพียงแต่วางแผนนอกประเทศ เท่านั้นแบ่งดินแดนของอุสมานียะห์เท่านั้นได้แทรกกิจการภายในเพื่อให้กิจการภายในวุ่นวาย และอังกฤษฉวยโอกาสแทรกไปยังองค์กรสตรีของตุรกี โดยผ่านวกไซออนิสและองค์กรสตรีก็ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของไซออนิส อังกฤษ และเยอรมันทำงานร่วมกันในการปฏิวัติภายในประเทศ โดยใช้วัยรุ่นทั้งชายและหญิงและสมทบเงินทองเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
ความพยายามของสุลต่านอับดุลฮามิด
1. สร้างความเอกภาพความเป็นประเทศและเคาะลีฟะฮ การที่มีเคาะลีฟะฮที่แข่งแกร่นสร้างความเข้มแข็งและปกป้องมุสลิมทุกมุมของโลกมุสลิม ความพยายามเหล่านี้สร้างความไม่พอใจให้แก่อังกฤษและหลายประเทศ
2. สุลต่านอับดุลฮามิด พยายามสร้างความผูกพันกับเอเชียตะวันออกและได้ส่งตัวแทนและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเคาะลีฟะฮ์
3. การทำงานของอับดุลฮามิด จะเห็นได้ว่าภายในประเทศพยายามสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความคิดอิสลามและต่างประเทศท่านได้พยายามสร้างความสัมพันให้แน่งแฟ้นเป็นหนึ่งอันเดียวกัน และท่านทุ่มเทได้ทำงานอย่างลึกลับเพื่อไม่ให้โลกตะวันตกที่กำลังจ้องมองด้วยความริษยาและแผนการอันเลวร้าย
4. ท่านได้ส่งตัวแทนเกือบประเทศเพื่ออธิบายการเมืองนี้ให้เข้าใจและตอนนี้เรากำลังรอโอกาสเท่านั้นเอง
สุลต่านอับดุลฮามิดได้อธิบายความเป็นหนึ่งอันเดียวกันทุกสองพื้นที่ของมุสลิมและสร้างความใกล้ชิดเท่าที่ทำได้นี่แหละความหวังของเราในอนาคตและวันหนึ่งความเป็นหนึ่งอันเดียวกันของพี่น้องมุสลิมเปรียบเสมือนร่างเดียวกันเมื่อเรานั้นเราจะติดต่อชาวกาเฟร

อ้างจากเอกสารประกอบการสอนรายวิชาหลักการบริหารในอิสลาม 3 สาขารัฐประศาสนศาสตร์มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น