วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2553

อิหม่ามมะฮดี ผู้นำที่โลกรอคอย

ตอบคำถามโดย เชค ดร.ซัลมาน อัล เอาดะฮฺ
อบู ฮุมัยรฺ แปลและเรียบเรียง
คำถาม: ท่านช่วยบอกฉันเกี่ยวกับหะดีษที่รายงานถึงอิมาม มะฮฺดียฺและความสำคัญของมัน
คำตอบ: มีหะดีษไม่ต่ำ กว่า ร้อยที่รายงานถึงอิมาม มะฮฺดียฺ หะดีษเหล่านี้มีตั้งแต่ เมาฎูอฺ ฎออีฟ หะซันและก็ศอฮี้ฮฺ แต่หะดีษศอฮี้ฮฺนั้นมีจำนวนน้อย ซึ่งมีดังต่อไปนี้

1. ท่าน อะลียฺ บิน อบี ฏอลิบ รอดิยัลลอฮุ อันฮุ ยกคำพูดของท่านนบี ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ที่กล่าวว่า “มะฮฺดียฺนั้นมาจากพวกเรา จากวงศ์วานของนบี (ศ็อลลัล ลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม) อัลลอฮฺจะนำเขามาในค่ำ คืนหนึ่ง” รายงานโดยอิมาม อะหฺมัด และอิบนุ มาญะฮฺ

2. มีสามหะดีษที่มีสายรายงานผ่านสะอีด อัล คุดรียฺ รดิยัลลอฮุ อันฮุ หะดีษเหล่านี้บันทึกโดย อัลฮากิม และบางหะดีษบันทึกโดย อบูดาวุด, อัตติรมีซียฺ, อิบนุมาญะฮฺ, อิมาม อะหฺมัด และคนอื่นๆ จากหะดีษนี้ อัต ติรมีซียฺ รายงายจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ที่กล่าวว่า “มะ ฮฺดียฺมาจากประชาชาติของฉัน เขาจะเกิดและมีชีวิตอยู่เพื่อปกครองเป็นเวลา ห้าปี เจ็ดปี หรือเก้าปี”

3. อบู ดาวุด รายงานหะดีษต้นหนึ่งเกี่ยวกับ อิมาม มะฮฺดียฺ จากท่านนบี ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวว่า “มะฮฺดีสืบเชื้อสายมาจากฉัน เขามีหน้าผากกว้าง จมูกเรียวยาวและโค้ง เขาจะทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยความยุติธรรมและความเที่ยงธรรม ซึ่งขณะนั้นเต็มไปด้วยความอธรรมและความชั่วร้าย เขาจะปกครองเป็นเวลาเจ็ดปี”

มีหะดีษอีก ต้นหนึ่ง เช่นกันที่รายงานโดย เษาบาน รอดิยัลลอฮุ อันฮุ ที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวว่า “ถ้าพวก ท่านเห็นธงสีดำปรากฏออกมาจากคุรอซาน พวกท่านจงเข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนพวกเขาถึงแม้ว่าจะต้องคลานก็ตาม เนื่องจากว่าในหมู่พวกเขาจะมีเคาะลีฟะฮฺ อิมามมะฮฺดียฺอยู่” หะดีษนั้นถูกบันทึกโดย อัล ฮากิมและอะหฺมัดแต่สายรายงานหะดีษนั้นไม่ศอฮียฺทั้งหมด แม้ว่าอุลามาอฺหะดีษบางคนจะบอกว่ามันอยู่ในระดับ “หะซัน” ก็ตาม
บางคน บอกว่าหะดีษที่กล่าวมาข้างต้นนั้นถูกนำมาอ้างเพื่อสนับสนุนว่า อิมาม มะฮฺดียฺจะปรากฏตัวในสมัยราชวงศ์อับบาซียะฮฺ หะดีษนี้อาจจะถูกกุขึ้นมาทั้งหมดหรือคำพูดของมันอาจจะถูกบิดเบือนเพื่อที่จะ สนับสนุนราชวงค์อับบาซียะฮฺก็เป็นได้
ขอเสริมจากที่กล่าวมาว่า มีหลายหะดีษที่รายงานถึงอิมาม มะฮฺดียฺนั้นเป็นความจริงโดยทั่วไป แต่ส่วนมากแล้วไม่ถึงระดับศอฮี้ยฺ มันอาจะมีเพียงหะดีษเดียวในหะดีษเหล่านี้ที่นับว่าศอฮี้ยฺ ยิ่งกว่านั้นมันมีจำนวนน้อยที่นับว่าเป็น หะดีษหะซัน แต่ขณะเดียวกัน ส่วนมากแล้วเป็นหะดีษฎออีฟ
อุลามาอฺจำนวนมากเขียนเรื่องของอิมา มมะฮฺดียฺ หนึ่งในนั้นคือชัยคฺนาอีม บิน ฮามัด เขาเขียนเกี่ยวกับอิมาม มะฮฺดียฺในหนังสือของเขาที่ชื่อว่า “อัล ฟิตัน” แม้ว่าชัยคฺนาอีมจะเป็นอิมามซุนนะฮฺ แต่ อัดดัรกอตานียฺ, อัสสาฮาบียฺและอิบนุฮาญัรกล่าวว่ามีหะดีษฎออีฟ(อ่อน) หะดีษเมาฎูอฺ(กุขึ้น)จากการรายงานของเขา
ส่วนคน อื่นๆที่เขียนถึงอิมามมะฮฺดียฺคือ อบู นาอีม อัล อัสฟาฮานียฺและยูสุฟ อิบนุ ยะฮฺยา อัส สาลามียฺ หนังสือของพวกเขามีชื่อว่า “อุก็อด อัดดุร็อรฺ” อิบนุ คอลดูนได้เขียนถึงเรื่องนี้ในหนังสือที่มีชื่อเสียงของเขาที่ชื่อว่า “อัล มุก็อดดิมะฮฺ” เช่นเดียวกัน เขากล่าวว่า ส่วนใหญ่แล้วมุสลิมทราบเรื่องนี้ดีว่าอิมาม มะฮฺดียฺคือเรื่องจริง เขากล่าวเพิ่มเติมอีกว่า อุลามาอฺและบรรดาอิมามส่วนใหญ่จะเน้นย้ำหะดีษที่รายงานเกี่ยวกับอิมามมะฮฺดี ยฺ ถึงแม้ว่าหะดีษจำนวนมากจะยังเป็นเรื่องที่โต้แย้งกันอยู่
อุลามา อฺร่วมสมัยจำนวนไม่น้อยที่เชื่อว่าหะดีษที่รายงานเกี่ยวกับ อิมาม มะฮฺดียฺเป็นเรื่องจริง
อย่างไรก็ ตาม มีอุลามามอฺบางท่านปฏิเสธหะดีษทั้งหมดที่รายงานในเรื่องนั้น หนึ่งในอุลามาอฺเหล่านั้นคือ ท่านมุญาฮิดที่อ้างว่า อิมาม มะฮฺดียฺคือ นบีอีซา บุตรชายของนางมัรยัม ในเรื่องนี้ อิบนุ มาญะฮฺและอัลฮากิมได้รายงานหะดีษฏออีฟในเรื่องที่ว่า อิมาม มะฮฺดียฺคือ นบีอีซาเช่นเดียวกัน
ในบรรดาอุลามาอฺร่วมสมัยที่เชื่อหะดี ษเกี่ยวกับอิมาม มะฮฺดียฺคือ เชค มุฮัมมัด รอชีด ริฎอ, เชค อับดุลลอฮฺ บิน ซัยดฺ อัล มะฮฺมูด, มุฮัมมัด มูฮัยยุดดีน อับดุลฮามิดและคนอื่นๆ
บรรดา มุสลิมที่เป็นอะหฺลุซซุนนะฮฺเชื่อว่า ชายผู้หนึ่งจากลูกหลานของท่านนบีจะถือกำเนิดก่อนที่โลกจะถึงกาลอวสานโดย ดำเนินชีวิตที่เรียบง่ายเหมือนกับคนทั่วๆไป เขาอาจจะทำผิดพลาดและจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเหมือนกับคน ทั่วๆไป จากนั้นอัลลอฮฺจึงเลือกเขาเพื่อที่จะทำให้มุสลิมมีความเป็นเอกภาพอีกครั้ง และชี้แนะพวกเขาไปสู่ทางที่เที่ยงตรง
นี่คือทั้งหมดที่จะต้องเชื่อ เกี่ยวกับ อิมาม มะฮฺดียฺ ไม่ปรากฏตัวบท ณ ที่ใดที่กล่าวทำนองว่า มันคือภาระหน้าที่ทางศาสนาที่จะต้องรอคอยการมาของเขาอย่างกระวนกระวาย ยิ่งกว่านั้นมุสลิมจะต้องไม่เชื่อข้อกล่าวอ้างของคนใดก็ามที่บอกว่าเขาคือ อิมาม มะฮฺดียฺ นอกจากว่าจะมีหลักฐานที่ชัดเจนในเรื่องนี้ดังที่คนจำนวนมากได้กล่าวอ้างใน เรื่องดังกล่าว
เพราะฉะนั้น มุสลิมไม่จำเป็นต้องรีบเร่งที่จะเชื่อใครก็ตามที่ อ้างตนว่าเป็น อิมามมะฮฺดียฺ พวกเขาจะต้องตรวจสอบและสร้างความมั่นใจในเรื่องนี้

ไม่มีหลัก ปฏิบัติในชะรีอะฮฺอิสลามข้อใดที่เกี่ยวข้องกับการมาของอิมามมะฮฺดี ยฺต้องกล่าวว่า มุสลิมจะต้องไม่รีรอที่จะปฏิบัติตามหน้าที่ทางศาสนา เช่น การละหมาดญามาอะฮฺ การญิฮาด หรือการใช้บทลงโทษที่ถูกระบุไว้ในชะรีอะฮฺ เป็นต้น จนกระทั่งอิมามมะฮฺดียฺปรากฏขึ้นมาและชี้แนะพวกเขาในเรื่องนั้น มุสลิมจะต้องดำเนินชีวิตของพวกเขาตามปกติ เช่น การอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺ ต้องทำงาน ปฏิรูปสังคมของพวกเขา เรียนและสอน เป็นต้น หากอิม่าม มะฮฺดียฺปรากฏขึ้นและพวกเขาแน่ใจแล้วว่าเป็นเขาแน่นอน พวกเขา ก็จะต้องดำเนินตามเขา นี่คือทัศนคติของบรรดาศอฮาบะฮฺและผู้ที่ดำเนินตามพวกเขาอย่างแท้จริง
http://www.iqraforum.com/forum/index.php/topic,3633.0.html

1 ความคิดเห็น: